บทความ

วันตรุษจีน

รูปภาพ
  ตรุษจีน   ( จีนตัวย่อ :   春节 ;   จีนตัวเต็ม :   春節 ;   พินอิน :   Chūnjíe  ชุนเจี๋ย ) เป็นวันหยุดตามประเพณีของจีนที่สำคัญที่สุด ใน ประเทศจีน   ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า " เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ " เพราะ ฤดูใบไม้ผลิ ตาม ปฏิทินจีน เริ่มต้นด้วยวัน ลีชุน   ซึ่งเป็นวันแรกในทางสุริยคติของปีปฏิทินจีน วันดังกล่าวยังเป็นวันสิ้นสุด ฤดูหนาว   ซึ่งคล้ายกันกับงานเทศกาลของตะวันตก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ( จีน :   正月 ,   พินอิน :   Zhēngyuè ) ในปฏิทินจีนโบราณและสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ด้วย เทศกาลโคมไฟ   คืนก่อนตรุษจีนเป็นวันซึ่งครอบครัวจีนมารวมญาติเพื่อรับประทานอาหารเย็นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเรียกว่า ฉูซี่ ( จีน :   除夕 ,   พินอิน :   Chúxī ) หรือ "การผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน" เนื่องจากปฏิทินจีนเป็นแบบ สุริยจันทรคติ   ตรุษจีนจึงมักเรียกว่า " วันขึ้นปีใหม่จันทรคติ " ตรุษจีนเป็นงานเฉลิมฉลองที่ยาวที่สุดและสำคัญที่สุดในปฏิทินจีน จุดกำเนิดของตรุษจีนนั้นมีประวัติหลายศตวรรษและมีความสำคัญเพราะตำนานและประเพณีหลายอย่าง ตรุษจีนมีการเฉลิมฉลองกันในหลายประเทศและดินแดนซึ่งมีประชากรจีนอาศัยอยู่

วันวาเลนไทน์

รูปภาพ
  วันนักบุญวาเลนไทน์   ( อังกฤษ :   Saint Valentine's Day ) หรือเรียก   วันวาเลนไทน์   ( อังกฤษ :   Valentine's Day ) ตรงกับวันที่   14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี วันวาเลนไทน์มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นประเทศทางตะวันตก แม้จะยังเป็นวันทำงานในทุกประเทศเหล่านั้นก็ตาม "วันนักบุญวาเลนไทน์" แต่เดิมเป็นเพียงวันฉลองนักบุญใน ศาสนาคริสต์ยุคแรก หนึ่งหรือสองคนชื่อวาเลนตินัส ความหมายโรแมนติกโดยนัยสมัยใหม่นั้นกวีเพิ่มเติมในอีกหลายศตวรรษต่อมาทั้งสิ้น มีการกำหนดวันวาเลนไทน์ขึ้นครั้งแรกโดย สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1  ใน ค.ศ. 496 ก่อนที่ สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6  จะให้ตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไป (General Roman Calendar) ในปี ค.ศ. 1969 วันวาเลนไทน์มาข้องเกี่ยวกับรักแบบโรแมนติกเป็นครั้งแรกในแวดวงสังคมของ เจฟฟรีย์ ชอเซอร์   สมัยกลางยุครุ่งโรจน์  (High Middle Ages) เมื่อประเพณีรักเทิดทูน (courtly love) เฟื่องฟู จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์ได้วิวัฒนา มาเป็นโอกาสซึ่งคู่รักจะแสดงความรักของพวกเขาแก่กันโดยให้ดอกไม้  ขนม หรือลูกกวาด และส่งการ์ดอวยพรกัน [1] [2] ในภายหลั

อัตลักษณ์ลำพูน

รูปภาพ
  วิถีชาวยองบ้านดอนหลวง จ.ลำพูน ชุมชนที่รักษาอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้คงอยู่ 8 กรกฎาคม 2021 เวลา 14:18 ขนาดตัวอักษร   -   +            พาเที่ยวชุมชนชาวยอง บ้านดอนหลวง จังหวัดลำพูน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ภูมิปัญญา งานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ สร้างรายได้ให้กับชุมชน สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน           ในภาคพื้นอุษาคเนย์เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ อย่างในแถบล้านนาของไทย โดยเฉพาะเมืองลำพูนนั้น กลุ่มชาติพันธุ์ไต หรือไท ถือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด หากใครอยากสัมผัสวิถีชุมชนท้องถิ่นในลำพูนแบบดั้งเดิม แนะนำให้ไปเที่ยวชุมชนชาวยอง ณ บ้านดอนหลวง ที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีตามแบบบรรพบุรุษ สืบเนื่องมายาวนานร่วมร้อยปี ดังนั้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. จึงเข้าไปสนับสนุนจนเกิดเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน   ทำความรู้จักประวัติศาสตร์ "ไทยอง"           ไทยอง เป็นชื่อที่ใช้เรียกคนในกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ที่ตั้งบ้านเมือ

10แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่

รูปภาพ
  1. ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่ถนนคนเดินท่าแพ ถนนคนเดินท่าแพ ถนนที่เพื่อนๆ จะได้สัมผัสวิถีชีวิตและความเป็นพื้นเมืองของชาวเชียงใหม่ยามค่ำคืนได้อย่างใกล้ชิด บริเวณถนนคนเดินแห่งนี้เราจะได้ชิม ช้อป ชิล ทั้งอาหาร Street Food ขึ้นชื่อ ผลไม้พื้นเมือง ได้ ช้อปสินค้า Handmade สินค้าแฟชั่น ซื้อของฝากจากเชียงใหม่ไปให้คนใกล้ชิด โดยถนนคนเดินท่าแพจะเริ่มจาก ประตูเมืองท่าแพไปจนสุดถนนราชดำเนิน เรียกได้ว่าเดินชิล เดินช้อป เดินกินกันจนอิ่มเลยทีเดียว 2. ที่เที่ยวธรรมชาติเชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สูงสุดแดนสยามก็คือดอยอินทนนท์ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร บนตามเส้นทางการขึ้นดอยอินทนนท์ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติและความงามของเมืองเหนืออยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ, กิ่วแม่ปาน, สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์, บ้านแม่กลางหลวง, บ้านผาหมอน, น้ำตกแม่ยะ, น้ำตกวชิรธาร ฯลฯ 3. ม่อนแจ่ม เชียงใหม่ ม่อนแจ่ม ดินแดนแห่งขุนเขา ทะเลหมอก และดอกไม้ ที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เราจะได้สัมผัสลมหนาวและวิวทิวทัศน์ ของภูเขาสุดลูกหูลูกตา อากาศที่ม่อนแจ่มค่อนข้างเย็นสบาย